เชื่อว่า สาวๆ คงเคยเป็นสิวกันทุกคน ลำพังแค่เป็นสิว ก็ทำให้ความสวยหดหายลงไปมากแล้ว เมื่อสิวหาย ยังกลับทิ้งรอยดำและหลุมสิวฝากไว้บนใบหน้าของคุณอีก มันช่างน่าเจ็บใจจริงๆ แต่การแก้ปัญหาหลุมสิว ก็ใช่ว่าจะไม่มี เพียงแต่ต้องใช้ความอดทน และใช้เวลาสักนิด ผิวหน้าก็จะกลับมาดีดังเดิมได้
การรักษาปัญหาหลุมสิวนั้น มี 2 วิธีใหญ่ๆ คือการรักษา และการป้องกัน
1. การรักษา
- รักษาเบื้องต้นด้วยตนเอง
เช่น การทายาที่สามารถกระตุ้นเซลล์ผิวให้มีการซ่อมแซมแผล ริ้วรอย เช่น วิตามินอีเอเอชเอบีเอชเอ และการกินยาที่ประกอบไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ คอลลาเจน เป็นต้น เป็นการบรรเทาผิวหนังเบื้องต้น ที่ช่วยได้ส่วนหนึ่ง
- รักษาด้วยเครื่องมือแพทย์แบบต่าง ๆ
เพื่อช่วยบรรเทาหรือช่วยเร่งให้มีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน เช่น กลิ้งเดอร์มาโรลเลอร์ การใช้เลเซอร์ลำแสงแบบต่างๆ เช่น IPL PHONO การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ซึ่งได้ผลดี แต่ยังมีราคาค่ารักษาค่อนข้างสูง
การรักษาที่ดีที่สุดนั้น ควรใช้ทั้งการทายา ทานยา และรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ควบคู่กันไป โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
2. การป้องกัน
การป้องกันการเกิดปัญหาหลุมสิว เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยมีวิธีต่างๆ ในการป้องกัน ดังนี้
- ไม่พยายามบีบ เค้น แคะสิวที่กำลังอักเสบอยู่
- ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอนทุกครั้ง ไม่ควรเข้านอนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ล้างหน้า หรือผิวหน้าไม่สะอาดรวมถึงล้างเครื่องสำอางให้หมดจด
- ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และหมั่นทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิวเป็นประจำสม่ำเสมอ เช่น ผัก ผลไม้ วิตามินเอ อี ซี หรือคอลลาเจน
- หากมีปัญหาผิวหน้ามัน ควรรักษาผิวหน้า ควบคุมความมันให้ได้ เพราะความมัน เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ง่าย
ถ้าคุณรู้จักดูแลผิวหน้าให้ดีเป็นประจำ ก็ช่วยลดปัญหาหลุมสิวไปได้มากแล้วนะคะ และหากรักษาอย่างถูกต้อง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดหลุมสิว และรอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงรอยดำแล้วล่ะค่ะ
ผิวกระจ่างใส ใครๆ ก็อยากมีใช่ไหมคะ สำหรับสาวๆ ที่มองหาสูตรขัดผิวอยู่ วันนี้เรามีสูต
สาวๆ ที่รักการทาเล็บ หรือเพ้นท์เล็บเป็นชีวิตจิตใจนั้น มักจะสนุกกับการได้เลือกสี เลือกลาย เลือกแบบในการ
สาวๆ หลายคนเข้าใจว่า การชะลอความแก่ทำได้ด้วยการพอกครีมเท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว การรับประทานอาหารให้ถูก
การแต่งหน้า เป็นชีวิตจิตใจของผู้หญิงเราแทบทุกคน ไม่ว่าจะแต่งมากแต่งน้อย การแต่งหน้า