กลิ่นหอมนับเป็นอาภรณ์ประดับกายอย่างหนึ่งของสาวๆ นอกเหนือจากเสื้อผ้าหน้าผม ใครที่ได้คุยกับคุณ ควรได้สัมผัสกลิ่นหอมจากกาย ไม่ใช่กลิ่นอับของเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม สาวๆ จำนวนมากมีปัญหากับการใช้น้ำหอม บางคนใส่เยอะเกินไปจนกลายเป็นฉุน ชวนให้คู่สนทนาเวียนหัว บางคนใส่น้อยเกินไปจนแทบไม่หลงเหลือกลิ่นอะไรเลย วันนี้เราจึงนำเทคนิคในการฉีดน้ำหอมแบบติดทนนาน แถมกลิ่นไม่ฉุนเกินไปมาฝากกันค่ะ
1. ฉีดตามจุดชีพจร
ได้แก่ ด้านในข้อมือ ด้านในข้อพับศอก บริเวณจุดชีพจรเหล่านี้สามารถทำให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปไกล ทุกๆ วินาทีที่ชีพจรเต้น
2. ซอกคอ บริเวณใต้กราม
กลิ่นจะยิ่งหอมเวลาที่คุณหันซ้าย หันขวา หรือมีคนเข้ามาใกล้ๆ ก็จะได้กลิ่นน้ำหอม
3. ร่องอก
บริเวณเนินอกจะส่งกลิ่นหอมฟุ้งขึ้นมายังจมูกคุณโดยตรงทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมตลอดวัน
4. ข้อพับขา – แขน
จุดสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นจุดที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ยิ่งช่วงเวลาเดินหรือวิ่ง กลิ่นจะโชย หอมฟุ้งกระจายไปยังคนข้างกายได้
5. ตาตุ่ม และ กระดูกหน้าขา
หลายคนคงสงสัยว่า ใครจะฉีดที่ตาตุ่ม แต่หารู้ไม่ว่าตาตุ่มนี่ล่ะโชยกลิ่นดีนัก เพราะเวลาก้าวเดินเยื้องย่าง จะยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมฟุ้งตลบจากเท้าขึ้นสู่ด้านบน แถมยังช่วยปิดบังกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเท้าอีกด้วย
6. ขาหนีบ สะโพก
คิดว่าหลายๆ คนคงมองข้ามขาหนีบอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในร่มผ้า และต้องใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิดตลอดเวลา แต่อยากจะบอกว่าคุณคิดผิด เพราะบริเวณขาหนีบเป็นอวัยวะที่เราใช้งานหนักมาก ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่าย การพรมน้ำหอมในส่วนนี้ จะช่วยลดกลิ่นอับชื้นได้ค่ะ
7. อากาศ
ฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งในอากาศและรีบเดินผ่านละอองน้ำหอมให้ติดตัวทุกจุดทั่วเรือนร่าง เป็นวิธีที่ได้ผลดี แต่ต้องยอมลงทุนสักหน่อย
ไม่ว่าคุณจะฉีดน้ำหอมด้วยเทคนิคระดับเทพขนาดไหนก็ตาม จงอย่าลืมสิ่งสำคัญของเสน่ห์ที่แท้จริง คือความน่ารัก รอยยิ้ม และคำพูดหวานๆ ที่จะมัดใจชายคนรักให้อยู่กับคุณไปนานแสนนาน นะจ๊ะ
เชื่อว่าสาวรักสุขภาพผิว คงรู้วิธีการดูแลผิวพรรณอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนวดหน้า การทาครีม การมาส์กหน้า&n
หากพูดถึงองุ่นแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงรสชาติความหวานอร่อยของเนื้อองุ่นฉ่ำๆ ที่เมื่อได้ดื่มด่ำความอร่อยข
ธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อมนุษย์เรามากมาย อย่างเช่นสมุนไพร ซึ่งนอกจากจะสามารถ
เป็นที่รู้กันดีในหมู่สาวๆ อย่างเราว่า คิ้ว คือมงกุฎของหน้า ดังนั้น การมีคิ้วส
การดูแลผิวนั้น โดยส่วนมากเราอาจใช้วิธีการดูแลจากภายนอกเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการป้องก