การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้การย่อยอาหารทำงานช้าลง ลำไส้ใหญ่ดูดซึมน้ำมาก และมดลูกขยายทับลำไส้ ทำให้คุณแม่เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย
การจะป้องกัน และรักษาอาการท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น สามารถทำได้ดังนี้
ทานอาหารที่มีเส้นใยสูง
อาหารที่มีเส้นใย ช่วยให้ลำไส้ช่วยอุ้มน้ำไว้ ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม มีน้ำหนัก และปริมาณเพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้บีบตัวออกมาได้ง่าย ซึ่งได้จากการทานอาหารประเภทผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าว แป้งที่ไม่ขัดสี
ในหนึ่งวัน ควรทานผักให้ได้วันละ 200-300 กรัม ผลไม้วันละ 2-3 ชนิด และทานธัญพืชที่มีเส้นใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย ข้าวโพด เป็นต้น
ดื่มน้ำสะอาดมากๆ
น้ำเปล่าสะอาด มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และมีความจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้กากใยอาหารอ่อนตัว อุจจาระอ่อนนุ่ม และร่างกายไม่ขาดน้ำ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทานน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว และสลับกับน้ำสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ที่ไม่หวานจัด เพื่อเพิ่มพลังงานและความสดชื่น
เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
การเคี้ยวอาหารให้ละเอียด นอกจากจะทำให้อิ่มเร็วแล้ว ยังช่วยย่อยอาหารในเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ท้องไม่อืดง่าย และรู้สึกสบายท้อง นอกจากนี้ คุณอาจแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยขึ้น ดีกว่าการทานมื้อหนักๆ เพียง 3 มื้อ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนัก
หลีกเลี่ยงอาหารทำให้ท้องผูก
อาหารที่ทำให้ท้องผูก แน่นท้อง ท้องอืด ย่อยยาก หรือปนเปื้อนจนอาจทำให้ท้องเสียได้ เช่น เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน พวกกาแฟ ชา น้ำอัดลม อาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดกรอบ เนื้อสัตว์ติดมัน กะทิ เป็นต้น และอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ลาบ ปลาดิบ อาหารดิบ เป็นต้น
ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ จะได้หมดปัญหาเรื่องท้องอืด ท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ และทำช่วงเวลานี้ให้มีค่าในการรอคอยที่จะได้พบกับเจ้าตัวน้อยในท้อง
ในช่วงตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายคงนึกถึงเจ้าตัวน้อยในท้องของตนเองมาเป็นอันดั
อีกหนึ่งปัญหาของการตั้งครรภ์ที่พบเจอได้เรื่อยๆ และไม่มีคุณแม่คนไหนอยากให้เกิดกับต
ในช่วงของการตั้งครรภ์ เชื่อว่าคุณแม่ทุกคน คงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย และเป็นห่วงลูกน้
หากพูดว่า สีของเสื้อผ้าที่ว่าที่คุณแม่ใส่ในขณะตั้งครรภ์ ชุดคลุมท้อง จะมีผลต่อลูกน้อยในท้อง
ตั้งแต่ที่คุณรู้ว่ากำลังจะได้เป็นแม่คน คงเป็นความรู้สึกพิเศษที่สุดสำหรับผู้หญิงคน