หมวดหมู่บทความ

ช็อกโกแลตซีสต์ ภัยเงียบในผู้หญิง



ช็อกโกแลตซีสต์ ที่เรารู้จักและคุ้นหู หรือ โรคเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ คือโรคชนิดหนึ่ง ลักษณะเหมือนถุงน้ำที่มีของเหลวภายในสีเหมือนช็อกโกแลต ซึ่งก็คือเลือดที่คั่งค้างและมีสีเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล เกิดขึ้นเฉพาะในผู้หญิง

เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้ อาจกระจายเกาะอยู่ตามอุ้งเชิงกราน ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังจนเกิดพังผืดขึ้น จนเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยาก ปวดประจำเดือน และเลือดประจำเดือนออกมากได้

สาเหตุของโรค
ทางการแพทย์เชื่อว่า เกิดจากการที่เลือดประจำเดือนบางส่วนไหลย้อนกลับผ่านทางหลอดมดลูกจนเกิดเป็นถุงน้ำดีที่ฝังตัวอยู่ที่รังไข่ เมื่อประจำเดือนมา ถุงนั้นก็จะมีเลือดออกในถุงด้วย ทำให้ในแต่ละเดือนถุงขยายตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นตามการดูดซึมน้ำของแต่ละคน

ช็อกโกแลตซีสต์สามารถเป็นได้ทุกคน
หากจะกล่าวว่าช็อกโกแลตซีสต์สามารถเป็นได้ในผู้หญิงทุกคนก็คงจะไม่ผิด เนื่องจากมีการพบว่าผู้หญิงเกือบทุกคนนั้นจะมีภาวะดูดเลือดประจำเดือนย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง

แต่สาเหตุที่มีบางคนเป็นเท่านั้น เกิดจากคนที่เป็นมีภูมิคุ้มกันบางอย่างบกพร่อง จึงไม่สามารถทำร้ายความผิดปกตินั้นได้ ในขณะที่สาวๆ ส่วนใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกัน จะสามารถทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่ผิดปกตินั้นได้

สาวโสดกับภาวะเสี่ยง
สาเหตุที่สาวโสด อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์มากกว่าสาวที่มีครอบครัวแล้วนั้น เป็นเพราะว่า ผู้หญิงที่เคยผ่านการตั้งครรภ์ จะไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันอย่างน้อย 10 เดือน – 1 ปีเต็ม ทำให้ถุงน้ำฝ่อตัวลง นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อกลับมามีประจำเดือนแล้วก็จะไม่มีอาการปวดท้องอีกด้วย

อาการต้องสงสัย
หากมีอาการดังต่อไปนี้ คุณอาจกำลังเข้าข่ายที่จะเสี่ยงเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์ได้
- ปวดในช่องท้อง ท้องน้อย หรืออุ้งเชิงกราน มีบุตรยาก
- ปวดประจำเดือน ประจำเดือนออกมาก
- อาการปวดต่างๆ เหล่านี้ มักจะรุนแรงขึ้นขณะที่มีประจำเดือน หรือ ช่วงก่อน/ หลังมีประจำเดือน
- ในรายที่เจริญที่รังไข่ อาจจะพบว่ามีก้อนในช่องท้อง จากถุงน้ำรังไข่ ที่โตขึ้นโดยไม่มีอาการแต่อย่างไรเลย
- ในรายที่เป็นโรคระยะรุนแรงจะมีพังผืดเกิดขึ้นจำนวนมาก หรือท่อนำไข่ถูกทำลายไป จากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้เข้าไปเกาะหรือฝังตัวในท่อนำไข่ ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหามีบุตรยากได้

แม้ว่าโรคช็อกโกแลตซีสต์ จะไม่มีความร้ายแรงต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็ทำให้ปวดท้องประจำเดือนเสมอ และอาจทำให้มดลูกตีบตันจนมีบุตรยากได้ ทางที่ดีควรทำการผ่าตัดออก ซึ่งการผ่าตัดในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แผลเล็กมาก และไม่เจ็บมากแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

ลดความอ้วนง่ายๆ ด้วยเมนูแนะนำจากอาหาร 3 ประเภท

การลดความอ้วน สาวๆ หลายคน คิดว่า คือการอดอาหาร แต่จริงๆ แล้ว การอดอาหารมีผลเสียต่อร่างกายมากม

เป็นตกขาว สาวๆ ควรใส่ใจ

เชื่อว่าสาวๆ ส่วนใหญ่ ต้องเคยประสบปัญหาเรื่องตกขาวทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเป็นตกขา

7 อาหาร ทานได้ไม่กลัวแก่

สำหรับสาวๆ เราแล้ว จะมีอะไรที่วิเศษไปกว่าการอ่อนเยาว์อยู่เป็นสาวพันปี สาวๆ จึงทุ่มเ

ทานแบบนี้สิ ยังไงก็ไม่อ้วน

เราควรเรียนรู้การกินให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่ทำให้อ้วน ก็จะช่วยให้ทานของโปรดได้อย่างมีความสุข ที่สำคัญ ทานยังไงก็ไม่อ้วนแน่นอน

วินัย 9 ข้อในการกิน เพื่อสุขภาพดี

เรื่องของสุขภาพ มาจากการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม หมั่นอ

5 ข้อง่ายๆ แก้ปัญหาปวดท้องประจำเดือน

ประจำเดือน เป็นกลไกของร่างกายอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคน เพื่อให้ร่างกายเป็