ในกิจวัตรประจำวันของบรรดาสาวๆ ที่ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานวันละ 7-8 ชั่วโมง หรือเป็นสาวมั่นยุคใหม่ ที่ทำงานเก่ง เอาจริงเอาจังในการทำงานจนดูแลตัวเองน้อยลง อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรวยไตอักเสบได้
โรคกรวยไตอักเสบ เกิดจากการที่สาวๆ ชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน และบ่อยครั้ง ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น
โรคกรวยไตอักเสบ พบในผู้หญิงมากว่าผู้ชายประมาณ 4 เท่า และเกิดในผู้หญิงที่กลั้นปัสสาวะได้ง่าย เนื่องจากมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย จึงติดเชื้อได้ง่าย
อาการของโรค
- ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการหนาวสั่นอย่างมาก จะจับไข้ไม่เป็นเวลาและมีอาการหนาวสั่นได้วันละหลายครั้ง
- ปวดบริเวณสีข้าง หรือเอว ด้านใดด้านหนึ่ง บางคนอาจมีอาการปวดตรงบริเวณท้องน้อยร่วมด้วย
- ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย แสบหรือขัด และมีปัสสาวะขุ่น
- มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลียร่วมด้วย
หากมีอาการและอาการแสดงดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนอย่างไตวาย หรืออาจถึงขั้นพิการได้
การป้องกันโรค
- ดื่มน้ำมากๆ วันละ 3-4 ลิตร (เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 แก้ว) ซึ่งน้ำจะช่วยขับเชื้อโรคออกจากกระเพาะปัสสาวะ
- อย่ากลั้นปัสสาวะ ควรฝึกถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวดจนเป็นนิสัย เวลาเดินทางไกล ต้องฝึกให้เคยชินที่จะเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้ากลัวไม่สะอาด ก็ชำระล้างโถส้วมให้สะอาดเสียก่อน
- หลังถ่ายอุจจาระ ควรชำระทวารหนักให้สะอาด การใช้กระดาษชำระควรเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังจนสะอาด เพื่อป้องกันมิให้นำเชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักปนเปื้อนเข้าท่อปัสสาวะ
- เมื่อมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (ปัสสาวะแสบขัด กะปริดกะปรอย โดยไม่มีไข้) ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามขึ้นไปที่กรวยไต
โรคกรวยไตอักเสบ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และกระทบต่อการงานอย่างแน่นอน ดังนั้น หากเริ่มมีอาการเสี่ยงควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป และทางที่ดีที่สุด คือการเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง นั่นคือ ไม่กลั้นปัสสาวะนั่นเอง
สาวๆ ที่มีรูปร่างดูไม่สมส่วน หรือดูอวบขึ้น คงมีความกังวลใจในรูปร่างของตนเองอยู
ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันทำให้สุขภาพจิตของคนในสังคมย่ำแย่ตามไปด้วย โดยเฉพาะสังคมเมื
สำหรับสาวๆ เราแล้ว จะมีอะไรที่วิเศษไปกว่าการอ่อนเยาว์อยู่เป็นสาวพันปี สาวๆ จึงทุ่มเ
