
สาวๆ ที่ไม่แน่ใจ หรืออยากรู้จริงๆ ว่าตนเองหน้าอกคัพอะไร คุณสามารถวัดด้วยตนเองได้ค่ะ โดยการวัดนั้น ต้องวัดด้วยสายวัดในขณะที่ไม่สวมใส่ชุดชั้นใน เสื้อผ้าใดๆ หรือใส่ได้เพียงเสื้อซับบางๆ ที่ไม่มีผลต่อการวัดเท่านั้น
การวัดขนาดนั้น จะต้องวัดสองตำแหน่ง คือ
ตำแหน่งที่ 1 ขนาดใต้ราวนม
ให้วัดโดยให้สายวัดชิดกับใต้ราวนม และวัดไปรอบตัว โดยอ่านค่าเป็นเซนติเมตร และจดค่าเอาไว้
ตำแหน่งที่ 2 รอบอก
รอบอกในที่นี้ คือการวัดโดยให้สายวัดพาดผ่านหัวนมทั้งสองข้าง อ่านค่าที่ได้เป็นเซนติเมตร และจดค่าที่ได้ไว้
จากนั้นให้เอาตำแหน่งที่ 2 ลบด้วยค่าตำแหน่งแรก เมื่อได้ผลลัพธ์แล้ว ไปดูกันเลยค่ะ ว่าคุณคัพอะไร
ขนาดใต้ราวนม
63.0 - 67.0 ขนาดไซส์ 65
68.0 - 72.0 ขนาดไซส์ 70
73.0 - 77.0 ขนาดไซส์ 75
78.0 - 82.0 ขนาดไซส์ 80
83.0 - 87.0 ขนาดไซส์ 85
88.0 - 92.0 ขนาดไซส์ 90
93.0 - 97.0 ขนาดไซส์ 95
98.0 - 102.0 ขนาดไซส์ 100
103.0 - 107.0 ขนาดไซส์ 105
ผลต่าง (ผลลัพธ์ที่ได้จากการนำมาลบกัน)
9.0 - 11.0 ขนาดคัพ A
11.5 - 13.5 ขนาดคัพ B
14.0 - 16.0 ขนาดคัพ C
16.5 - 18.5 ขนาดคัพ D
19.0 - 21.0 ขนาดคัพ E
มากกว่า 21.5 ขนาดใหญ่กว่าคัพ E
ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งที่ 1 วัดได้ 70 เซนติเมตร ส่วนตำแหน่งที่ 2 วัดได้ 82 ผลต่างคือ 12 ดังนั้น หน้าอกของคุณจึงคัพ B และต้องใส่ชุดชั้นในที่มีขนาด B70 นั่นเอง
ชุดชั้นในเดี๋ยวนี้ที่ดีๆ ก็ราคาแพง ได้รู้วิธีนี้แล้ว ลองเอาไปวัดดูนะคะ จะได้ง่ายต่อการซื้อชุดชั้นใน และทำให้ซื้อมาไม่ผิดพลาด
หนุ่มๆ สาวๆ ที่รักการพบปะสังสรรค์และปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงเป็นประจำ คงหนีไม่พ้นการดื่
ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูใดก็ตาม เมืองไทยของเราก็ดูจะร้อนระอุไปได้ทุกฤดู จนหลายต่อหลายค
สำหรับผู้หญิงเรา อุปกรณ์แต่งหน้า ถือเป็นสิ่งที่ถูกใช้งานแทบทุกวันโดยไม่ได้หยุดพัก
หุ่นดีๆ ผอมๆ ใครๆ ก็อยากมีด้วยกันทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรให้หุ่นที่อวบระยะสุดท้ายของ
สาวๆ มักพูดคุย และมีมุมมองต่อผู้หญิงกันเองว่าอย่างไหนที่เรียกว่าสาวที่มีเสน่ห์ แต่สาวๆ จะรู้หรือไม่นะ
สิ่งที่คู่กันกับผู้หญิงเรา ก็คือ ผู้ชายนั่นเอง สาวๆ จึงกระชุ่มกระชวยทุกครั้งที่ได้พ