ถ้าจะพูดถึงโรคมะเร็งที่ผู้หญิงเราเป็นมากเป็นอันดับหนึ่ง คงหนีไม่พ้น “มะเร็งปากมดลูก” ซึ่งหากเป็นแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายได้ และสร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับผู้หญิงไทยมานาน
แม้ว่าการรักษาจะเป็นไปได้ยาก แต่เราก็รู้จักที่จะป้องกัน และดูแลตนเองได้ ซึ่งอาหารที่ช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง ต้านพิษ และยังบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย นั่นก็คือ บร็อกโคลี และองุ่นเขียว
บร็อกโคลี
บร็อกโคลี เป็นผักสีเขียวที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะพูดถึงอาหารสุขภาพใดๆ จึงมักได้ยินชื่อของบร็อกโคลีอยู่เสมอๆ สำหรับการต้านเซลล์มะเร็ง บร็อกโคลี มีคุณสมบัติดังนี้
- อุดมไปด้วย ซัลโฟราเฟน กลูโคซิโนเลต สารต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง
- ช่วยเพิ่มระดับกลูตาไทโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญที่ช่วยเหลือตับให้ขับสารพิษ
- เป็นผักที่มีเส้นใยสูง ช่วยในเรื่องขับถ่าย
- มีสารเบตาแคโรทีน วิตามินซี กรดโฟลิก มาเสริมพลังต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ชนิดที่ใช้ล้างพิษ และช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง
- บร็อกโคลีมีความมหัศจรรย์เฉพาะตัว คือ เมล็ดบร็อกโคลีที่กำลังแตกหน่อจะมีสารประกอบต้านมะเร็งมากกว่าเมล็ดพืชชนิดอื่นๆ ถึง 50-100 เท่า
จะเห็นได้ว่า บร็อกโคลีมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายจริงๆ โดยเฉพาะการขับสารพิษ และการต้านเซลล์มะเร็ง บร็อกโคลีจึงเหมาะที่จะเป็นอาหารต้านมะเร็งประเภทหนึ่ง
องุ่นเขียว
ได้รู้ประโยชน์ของบร็อกโคลีกันไปแล้ว คราวนี้มาถึงองุ่นเขียว อาหารอีกประเภทที่ช่วยต้านมะเร็งปากมดลูกได้ โดยสรรพคุณขององุ่นเขียว มีดังนี้
- องุ่นเขียว เป็นผลไม้ขวัญใจในการล้างพิษ เต็มไปด้วยฟอสฟอรัส กำมะถัน แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี 1 และบี 2 วิตามินซี กรดไฟโตเคมิคอลเอลลาจิก และกรดทาร์ทาริก ช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่กระบวนการเผาผลาญอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย
- ดีต่อเลือดลม และช่วยขับปัสสาวะ
จะเห็นได้ว่า บร็อกโคลี และองุ่นเขียว มีประโยชน์มากมายมหาศาลจริงๆ และช่วยต้านเซลล์มะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย และแม้ว่าสาวๆ จะยังมีสุขภาพแข็งแรง ก็ควรที่จะทานบร็อกโคลีและองุ่นเขียวเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งด้วยนะคะ
โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่ผู้หญิงเรารู้จักกันเป็นอย่างดี และเกิดขึ้นได้เฉพาะใน
สาวๆ ที่มีรูปร่างดูไม่สมส่วน หรือดูอวบขึ้น คงมีความกังวลใจในรูปร่างของตนเองอยู
การลดความอ้วน สาวๆ หลายคน คิดว่า คือการอดอาหาร แต่จริงๆ แล้ว การอดอาหารมีผลเสียต่อร่างกายมากม
เคยมีความเชื่อเกี่ยวกับ “นม” ว่า เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ควรดื่มนม หรือลดปริมาณการดื่มนมให้น้อยลง ซึ่งเป
ในชีวิตประจำวัน ของทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน ย่อมพบเจอรังสียูวี และรังสีต่างๆ ได้ง่ายม